ความสำคัญของตู้คอนเทนเนอร์

หากเราทำธุรกิจนำเข้า-ส่งออก หรือทำธุรกิจร้านอาหาร ตลอดจนการประกอบการที่จะต้องมีการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ สิ่งหนึ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ คือ การขนส่ง ซึ่งในการจัดส่งสินค้าทางทะเลนั้น เรามักขนสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อทำการจัดส่ง การขนส่งทางทะเล เป็นช่องทางการขนส่งสินค้าที่มีความสำคัญอย่างมาก สามารถขนส่งผ่านน่านน้ำและเชื่อมต่อกับแผ่นดินได้ทั่วโลก ขนส่งสินค้าได้คราวละมากๆ อีกทั้งยังเป็นรูปแบบการขนส่งที่มีราคาต่ำที่สุด จึงได้รับความนิยมเสมอมา ซึ่งรูปแบบการขนส่งทางทะเลในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นการขนส่งด้วยระบบตู้คอนเทนเนอร์ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับตู้คอนเทนเนอร์กันว่าเจ้าตู้ขนส่งสินค้าที่เราพูดถึงนี้คืออะไร และมีกี่ประเภท อะไรบ้าง

ดูสินค้าตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มเติม

ตู้คอนเทนเนอร์ คืออะไร

ตู้คอนเทนเนอร์ (Con­tainer Box) คือ ตู้ภาชนะที่ผลิตมาเพื่อใช้สำหรับบรรจุสินค้าเพื่อใช้ในการขนส่งทางเรือ มีหลายสีสัน หลายขนาด และหลายประเภท เพื่อให้เกิดการขนส่งที่สะดวก ปลอดภัย และเหมาะสมกับสินค้าประเภทนั้นๆ เนื่องจากการขนส่งทางเรืออาจกินระยะเวลาที่ยาวนาน โดยทั่วไปมักใช้การขนส่งอย่างน้อย 15 วันขึ้นไป จึงต้องมี คอนเทนเนอร์ ที่เหมาะสมในการขนส่งสินค้าแต่ละประเภท ทั้งขนาดและคุณสมบัติของตู้ด้วย ซึ่งการเลือกใช้อย่างคุ้มค่าในการขนส่งจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับชนิดของสินค้า และปริมาณสินค้าที่จัดส่ง การขนส่งผ่านทางตู้คอนเทนเนอร์ จะมีการนำสินค้ามาบรรจุตู้ (Stuff­ing) และมีการขนย้ายตู้ขึ้นไว้บนเรือ Con­tainer Ship ซึ่งเรือนี้ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์โดยเฉพาะ เพื่อรับส่งสินค้ากับท่าเรือที่ออกแบบมาแบบ Ter­mi­nal Design ที่เหมาะสมทั้งในเชิงวิศวกรรมและสิ่งแวดล้อม

การขนส่งสินค้าด้วยตู้คอนเทนเนอร์ สามารถใช้บริการได้หลากหลายแบบ เช่น

  1. หากผู้ขายเป็นผู้บรรจุ จะเรียกว่า Term CY คือ Con­signee Load and Count จะเป็นสินค้าประเภทเต็มตู้ที่เรียกว่า FCL (Full Con­tainer Load)
  2. หากบริษัทเรือเป็นผู้บรรจุตู้สินค้าในท่าเรือหรือใน ICD (Inland Con­tainer Depot) ซึ่งตัวแทนบริษัทเรือเป็นเจ้าของสถานที่ ก็จะเรียกลักษณะการขนส่งแบบนี้ว่า CFS (Con­tainer Freight Sta­tion) จะเป็นสินค้าแบบ FCL หรือแบบการบรรจุแบบรวมตู้ /​น้อยกว่า 1 ตู้ ซึ่งเรียกว่า LCL (Less Con­tainer Load) ก็ได้
ตู้คอนเทนเนอร์, ตู้คอนเทนเนอร์ คือ
ตู้คอนเทนเนอร์, ตู้คอนเทนเนอร์ คือ

คุณลักษณะของตู้คอนเทนเนอร์เป็นอย่างไร

เราคงเคยเห็น หรือคุ้นชินกับตู้คอนเทนเนอร์มาพอสมควรแล้ว ว่าเป็นลักษณะเหมือนตู้เหล็กขนาดใหญ่ มีหลายสีสัน และมีประตูที่กว้างสำหรับบรรจุสินค้าได้อย่างสะดวก

ในปัจจุบันยังได้มีการนำคอนเทนเนอร์ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วหรือผลิตมาใหม่มาประยุกต์ใช้เป็นที่อยู่อาศัยต่างๆ อีกด้วย

โดยตู้คอนเทนเนอร์สำหรับขนส่งสินค้ามีคุณลักษณะดังนี้

  1. เป็นตู้ขนาดมาตรฐาน
  2. มีโครงสร้างภายนอกที่แข็งแรง อาจทำด้วยเหล็ก หรืออลูมิเนียม
  3. ภายในเป็นตู้โล่งกว้างสำหรับบรรจุสินค้า
  4. สามารถวางเรียงซ้อนกันได้ไม่น้อยกว่า 10 ชั้น
  5. ในการวางซ้อนกันจะมีการยึดตู้แต่ละตู้ติดกัน
  6. ส่วนใหญ่จะมีประตู 2 บาน
  7. ลักษณะภายนอกตู้จะเป็นลอนคลื่นเรียงกันในแนวตั้ง
  8. มีที่ล็อกประตูตู้เพื่อให้ปิดได้อย่างมิดชิดปลอดภัย

สำหรับการปิดซีลประตูตู้ ในปัจจุบันนี้เรามีการใช้ Elec­tronic Seal ซึ่งสามารถเข้าไปตรวจสอบหาตำแหน่งของการเคลื่อนย้ายตู้สินค้าได้ นอกจากนี้ ตู้คอนเทนเนอร์ยังมีการบอกรายละเอียดเกี่ยวกับการขนส่งสินค้านั้นๆ เช่น ระบุหมายเลขตู้ (Con­tainer Num­ber) หรือน้ำหนักของสินค้าบรรจุสูงสุด เป็นต้น คุณลักษณะเหล่านี้ เป็นคุณลักษณะพื้นฐานของคอนเทนเนอร์ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน และยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

สินค้า ตู้คอนเทนเนอร์ ของเรา

ตู้คอนเทนเนอร์, ตู้คอนเทนเนอร์ คือ
ตู้คอนเทนเนอร์, ตู้คอนเทนเนอร์ คือ
ตู้คอนเทนเนอร์, ตู้คอนเทนเนอร์ คือ
ตู้คอนเทนเนอร์, ตู้คอนเทนเนอร์ คือ
ตู้คอนเทนเนอร์, ตู้คอนเทนเนอร์ คือ

ตู้คอนเทนเนอร์ 3 ขนาด

ขนาดของตู้คอนเทนเนอร์ที่ใช้กันอยู่ทั่วไป ใช้จัดส่งสินค้าทั่วไปที่ไม่ต้องควบคุมอุณหภูมิ เช่น ชิ้นส่วนรถยนต์, เครื่องสำอาง, วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้า, อาหารแห้ง, ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้หรือเหล็ก รวมไปถึง สินค้าอันตรายต่างๆ เป็นต้น มี 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้

ตู้คอนเทนเนอร์, ตู้คอนเทนเนอร์ คือ

ตู้คอนเทนเนอร์มาตรฐาน Dry Car­goes /​Dry Box

เป็นตู้คอนเทนเนอร์แบบทั่วไป ที่เราใช้บรรจุสินค้าที่มีการบรรจุหีบห่อหรือภาชนะมาอย่างดี และเป็นสินค้าที่ไม่ต้องควบคุมรักษาอุณหภูมิ

  • ในการขนส่ง จะมีการทำที่กั้นเพื่อไม่ให้สินค้าเลื่อนหรือขยับในระหว่างการเดินทาง และใช้เชือกไนลอน ซึ่งเรียกว่า Lash­ing รัดหน้าตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อเป็นการเสริมความแข็งแรงอีกชั้นหนึ่ง มีทั้งขนาด 20 ฟุต 40 ฟุต 40 ฟุตไฮคิวบ์ และ 45 ฟุตไฮคิวบ์
  • ใช้ขนสินค้าประเภทอาหารแห้ง เครื่องใช้ไฟฟ้า ขนมขบเคี้ยว เสื้อผ้า ม้วนผ้าขนาดใหญ่ แผ่นยางพารา กระเป๋าเดินทาง เป็นต้น
  • น้ำหนักในการบรรจุสินค้าของตู้ประเภทนี้ ตู้ขนาด 20 ฟุตจะบรรจุได้ไม่เกิน 21.7 ตัน และขนาด 40 ฟุตจะบรรจุได้ไม่เกิน 27.4 ตัน

ตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมความเย็น Refrig­er­a­tor Car­goes /​Reefer

ตู้ประเภทนี้ เป็นตู้สินค้าที่มีการติดตั้งเครื่องทำความเย็น และมีที่วัดอุณหภูมิเพื่อแสดงอุณหภูมิของตู้สินค้า

  • จะใช้บรรจุสินค้าประเภทของสด อาหารทะเล ผลไม้ ไอศกรีม ช็อกโกแลต ยาเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์เฉพาะอย่าง สารเคมีในห้องทดลอง หรือของที่จะต้องควบคุมความเย็นตามอุณหภูมิที่เหมาะสม
  • สามารถลดอุณหภูมิได้ถึง –25 องศาเซลเซียส และบางชนิดสามารถปรับได้ถึง –60 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว
  • ซึ่งราคาในการใช้บริการก็จะสูงกว่าตู้คอนเทนเนอร์ทั่วไป เพราะมีค่าไฟเพิ่มมาด้วย
  • รวมถึงสินค้าจะมีความเสี่ยงในการควบคุมอุณหภูมิตลอดการเดินทาง จึงสมควรทำประกันสินค้าคุ้มครองความเสียหายระหว่างขนส่งด้วย

ตู้คอนเทนเนอร์ Open Top

ตู้คอนเทนเนอร์ประเภทนี้มีขนาดใหญ่ และมีความสูงถึง 40 ฟุต โดยจะไม่มีหลังคา ออกแบบมาให้ด้านบนเปิดโล่ง

  • ใช้สำหรับขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถขนย้ายผ่านประตูตู้ได้ หรือสูงเป็นพิเศษ (เกินกว่า 2.7 เมตร) เช่น เครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม ท่อชนิดต่างๆ เครื่องโม่หิน วัสดุก่อสร้างบางประเภท ยานพาหนะที่มีความสูงเป็นพิเศษ และอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ต่างๆ ที่มีขนาดใหญ่ เป็นต้น
  • ตู้ประเภทนี้ จะไม่สามารถวางตู้ซ้อนกันที่ด้านบนได้ ทำให้การใช้พื้นที่มีข้อจำกัดเพิ่มขึ้น
  • ราคาจึงสูงกว่าการส่งแบบตู้ทั่วไป
  • ในระหว่างการขนส่งจะมีการคลุมผ้าใบไว้เพื่อไม่ให้สินค้าได้รับได้รับความเสียหายจากฝน

ตู้คอนเทนเนอร์ Flat-​rack

เป็นคอนเทนเนอร์แบบพื้นราบ (Plat­form) ที่มีขนาดกว้างและยาวตามขนาดของตู้สินค้ามาตรฐาน เปิดโล่งทั้งด้านบนและด้านข้าง ออกแบบมาเพื่อบรรจุสินค้าลักษณะพิเศษ ทั้งที่กว้างเกินไป และสูงเกินไป ใส่ตู้มาตรฐานไม่ได้

  • มีทั้งขนาด 20 ฟุต และ 40 ฟุต
  • ใช้ขนส่งสินค้า เช่น เครื่องยนต์อุตสาหกรรม แท่งหิน หัวรถจักร เครื่องจักรประติมากรรม รถแทรกเตอร์ขนาดใหญ่ ท่อชนิดต่างๆ วัสดุก่อสร้าง ยานพาหนะที่มีลักษณะกว้างยาวสูงเป็นพิเศษ เพื่อให้จัดเรียงได้อย่างเป็นระเบียบและได้มาตรฐาน
  • และแน่นอนว่าราคาในการขนส่งก็จะสูงกว่าการจัดส่งในตู้แบบทั่วไปอย่างแน่นอน เนื่องจากใช้พื้นที่มาก และไม่สามารถวางซ้อนกันได้

ตู้คอนเทนเนอร์ Gar­ment Con­tainer

เป็นตู้สินค้าที่ออกแบบสำหรับใช้ในการบรรจุสินค้าที่เป็นเสื้อผ้าโดยเฉพาะ และมีราวสำหรับแขวนเสื้อ

  • เป็นตู้สินค้าประเภทพิเศษที่ผลิตขึ้นมาใช้กับสินค้าที่เป็น Fash­ion เป็นหลัก
  • สามารถขนส่งได้โดยไม่ต้องพับ หรือบรรจุภัณฑ์สินค้าให้สินค้ายับ ไม่สวยงาม

ตู้คอนเทนเนอร์ Ven­ti­lated

  • เป็นตู้ที่ออกแบบมาพิเศษ เพื่อใช้ในการบรรจุขนส่งสินค้าทางการเกษตรโดยเฉพาะ
  • โดยจะมีช่องระบายอากาศให้ด้วย

ตู้คอนเทนเนอร์ Tank /​ISO Tank

คอนเทนเนอร์ประเภท Tank ถูกออกแบบมาให้เป็นเหมือนถังบรรจุของเหลว ที่มีโครงขนาดเท่าคอนเทนเนอร์ทั่วไปครอบอยู่

  • ตู้ประเภทนี้นี้จะใช้กับสินค้าที่เป็นของเหลว
  • โดยความจุของถังจะอยู่ที่ 11,000 ลิตรถึง 26,000 ลิตร ขึ้นอยู่กับประเภทของถัง
  • รวมถึงใช้สำหรับขนส่งของเหลวที่เป็นอันตรายได้อีกด้วย
  • สิ่งที่น่าสนใจของตู้ประเภทนี้คือ สามารถบรรจุของเหลวได้มากกว่าการบรรจุใส่ถังแล้วนำมาโหลดเข้าตู้ และยังขนย้ายได้ง่ายกว่า

ตู้คอนเทนเนอร์สำเร็จรูป คุณภาพดี ราคาถูก ต้องที่ SBT เท่านั้น